วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

รู้ทันป้องกันถูก"แชะ"


ข่าวหนุ่มวิศวะโรคจิตที่ใช้มือถือตามแอบถ่ายใต้กระโปรงสาวๆ บนสถานีรถไฟฟ้าคงทำให้หลายคนรู้สึกหวาดๆ และไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นกับตัวโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องนุ่งกระโปรงไปทำงาน หรือใส่เสื้อเว้าเห็นหน้าอกรำไร ก็ควรหาทางป้องงกันตัวเองไว้
ถึงจะเป็นสาวรักแฟชั่น แต่การแต่งกายรัดกุมเหมาะกับสถานการณ์จะช่วยได้มากถ้าคุณนุ่งกระโปรงสั้นอาจต้องสวมกางเกงขาสั้น ถุงน่องเต็มตัวไว้ข้างใน หรือใส่กางเกงกระชับสัดส่วนก็ได้ประโยชน์ทั้งหุ่นสวยและเซฟด้วยในตัวจะให้ปลอดภัยมากกว่าและคิดว่าไม่ยุ่งยาก ระหว่างไปที่ทำงานสวมกางเกงขายาวไปก่อนถึงที่ทำงานแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นชุดทำงาน และทำเช่นเดียวกันนี้ในตอนกลับบ้านนอกจากคล่องตัวแล้วยังไม่ล่อตาล่อใจพวกโรคจิตหากต้องกลับบ้านมืดค่ำด้วย
ใช้ของใช้ที่มีติดตัว เช่น กระเป๋าถือใบใหญ่หรือหนังสือ เวลาจะก้มๆเงยๆ ก็ใช้ปิดหน้าอกถ้าขึ้นบันไดใช้ประโยชน์ปิดชายกระโปรง ขึ้นรถลงเรือ รวมไปถึงเวลายืนอยู่ในลิฟต์ก็ได้
หัดเป็นคนช่างสังเกต ระแวดระวังตนเอง หากไปในที่ที่คนพลุกพล่าน อย่าให้คนเดินตามหลังในระยะกระชั้นชิดนัก เพราะคนร้ายมักจู่โจมจากด้านหลัง ถ้ารู้สึกมีคนเดินตามและไม่แน่ใจว่าเขาเดินตามคุณเพื่อหวังร้ายหรือเปล่า ให้หันมาเผชิญหน้า ถ้าไม่ใช่เขาจะเดินแซงคุณไป ถ้าใช่บางครั้งคนร้ายอาจเปลี่ยนใจ เพราะเห็นว่าคุณรู้แล้ว
ระมัดระวังอากัปกิริยาไม่ว่าจะเดินหรือนั่ง เช่น กระนั่งไขว่ห้างหรือเวลาซื้อของ อย่ามัวก้มๆเงยๆดูสินค้าหากวันนั้นคุณนุ่งสั้น และมีผู้ชายเข้าใกล้ผิดสังเกตุ คุณต้องระวังคนเหล่านั้นให้ดี
ถ้าพบคนมีพิรุธไม่น่าวางใจ ทำทีเป็นโทรศัพท์แล้วส่งมือถือมาทางคุณทางที่ดีเดินหนีดีกว่าและถ้าเขายังตามคุณอยู่ก็ใช้วิธีจ้องหน้า ให้รู้ว่าคุณรู้ตัวแล้วและพร้อมจะเอาเรื่อง แต่ถ้าคุณแน่กว่านั้นทำทีเป็นเดินตรงเข้าไปแล้วใช้มือถือของคุณบันทึกภาพหน้าบุคคลต้องสงสัยเอาไว้บ้างคนพวกนี้มักจะไม่กล้าถ้ารู้ว่าเราเอาจริง
หากแน่ใจว่าคุณกำลังถูกแอบถ่าย ไม่ต้องอายรีบร้องโวยวายให้คนช่วยเพื่อประจานคนคิดร้ายที่สำคัญคุณคือพลเมืองดีที่สามารถช่วยกันสอดส่องดูแลลูกผู้หญิงด้วยกัน ถ้าเห็นคนอื่นกำลังถูกแอบถ่ายต้องบอกให้เขารู้ตัว และช่วยกันจับตัวส่งตำรวจดำเนินคดี

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อินเดียเจ๋ง โชว์โคลนนิ่งควายสำเร็จ


วิทยาศาสตร์ภารตะประกาศว่า สามารถโคลนนิ่งควายตัวแรกของโลกได้สำเร็จ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ลูกแหง่ อยู่ได้เพียงอาทิตย์เดียว ก็เป็นปอดบวมตาย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแห่งชาติ ดร.เอ.เค. ศรีวัสทวะ แจ้งว่า การโคลนนิ่งควายตัวแรก ใช้ เทคนิคการสำเนาพันธุ์แบบก้าวหน้า แบบเดียวกันกับการโคลนนิ่งแกะตัวแรก ที่ตั้งชื่อให้ว่า "ดอลลี่" เมื่อปี พ.ศ. 2549 หากแต่ว่าลูกควายอยู่มาได้แค่ อาทิตย์แรกก็ตาย ด้วยโรคปอดบวม ทางสถาบันได้ โคลนนิ่งโดยการสำเนาพันธุ์สามารถจะโคลนนิ่งลูกควายให้เกิดมาเป็นเพศใดก็ได้จากเซลล์ซึ่งเอามาจากควายตัวเมียอีก 2 ตัว ซึ่งกำหนดจะตกลูกออกมาในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปีนี้เขากล่าวว่า เทคนิคการโคลนนิ่ง ซึ่งสถาบันพัฒนาขึ้นนี้

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คาถารัก

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงอยากจะขอเสนอ " ๔ อ. คาถารักษา รัก ให้ยั่งยืน"ซึ่งคาถา ในที่นี้ มิใช่มนต์ที่จะเสกเป่าให้คนมารัก มาชอบ แต่เป็นเหมือนแนวทางให้คู่รัก หรือแม้แต่คู่สามีภริยาได้นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อความสุข ความสดชื่นในชีวิตคู่ต่อไป
อ.แรก คือ เอาใจใส่ ธรรมชาติของคนเราไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนพอใจให้มีคนมาเอาใจใส่ต่อตัวเราทั้งสิ้น ยิ่งเป็นแฟนหรือคนใกล้ชิดทำให้ก็ยิ่งทวีความสุขใจ การเอาใจใส่ในที่นี้ นับตั้งแต่การให้ความสนใจไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ให้ความห่วงหาอาทรอย่างสม่ำเสมอ เอาใจเขามาใส่ใจเรา คอยเอาใจ ช่วยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่เอาแต่ใจตัวหรือเอาแต่ได้ ที่สำคัญคือ ไม่เอาใจออกห่างจนเกิดปัญหาตามมา
อ.ที่สอง คือเอื้อนเอ่ยวาจาดี โดยปกติ คนเรามักจะพูดจากับผู้ที่เราไม่รู้จักด้วยถ้อยคำที่ไพเราะสุภาพ แต่เมื่อสนิทชิดเชื้อกันแล้ว ปรากฏว่าหลายค นมักจะขาดความเกรงใจต่อกัน และบ่อยครั้งก็พูดจากันด้วยคำไม่เหมาะสม ก้าวร้าว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ว่าจะสนิทกันเพียงไหน ถ้อยคำที่ไพเราะ อ่อนหวาน สุภาพก็ยังเป็นสิ่งฟังแล้วรื่นหู ให้ความสบายใจ ยิ่งเป็นคำชื่นชมด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือคู่ครอง ย่อมฟังแล้วเกิดความชื่นใจ มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ดังนั้น เราจึงควรพูดดีต่อกัน แม้แต่การตำหนิก็ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือดุด่าให้คนฟังเสียน้ำใจ
อ.ที่สาม คือ อดทน การที่คนสองคนจะมาเป็นแฟนหรือกลายมาเป็นสามีภริยากันในอนาคตได้นั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ความอดทนซึ่งกันและกัน เพราะการที่มาจากคนละครอบครัวอันมีความต่างกันไม่มากก็น้อย ย่อมต้องใช้เวลาศึกษาและปรับตัวเข้าหากัน หากไม่มีความอดทนเพียงพอ ก็อาจจะต้องเลิกรากันไปก่อน ที่จะรู้จักกันดีเสียอีก และเมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ก็ยิ่งต้องมีความอดทนมากขึ้น เพราะการดำรงชีวิตคู่ยังต้องช่วยกันทำมาหากิน และช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคข้างหน้าอีกมากมาย
อ.ที่สี่ คือ อภัยแก่กันและกัน ในชีวิตของคนเรานั้น ย่อมมีผิดพลาดกันเป็นธรรมดา ดังนั้น การรู้จักให้อภัยทั้งแก่ตัวเอง และคนที่เรารักจึงเป็นสิ่งจ ำเป็น มิฉะนั้นแล้ว เราจะอยู่กันด้วยความกินแหนงแคลงใจต่อกัน หรือโกรธกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีความสุขทั้งคู่ เพราะจิตใจเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ไม่สบายใจ เจ็บใจไม่หาย หรือบางคนก็หาทางแก้แค้น กลายเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไม่รู้จบสิ้น การให้อภัยจึงเป็นการสร้างความสงบสุข ร่มเย็นให้แก่จิตใจและชีวิตคู่ของเรา
ทั้ง ๔ อ. นี้ เป็นเพียงแนวทางกว้างๆ ที่เชื่อว่าใครปฏิบัติแล้วจะช่วยให้ชีวิตคู่รัก และคู่ครองมีความมั่นคง ยืนยาวยิ่งขึ้น และนอกเหนือไปจาก ๔ อ.ข้างต้นแล้ว สำหรับวัยรุ่น หรือเด็กๆที่ยังอยู่ในวัยเรียน ควรเพิ่ม อ.อดใจ เข้าไปด้วย คือจะรักจะชอบใคร ก็ควรยับยั้งชั่งใจให้ดี เพราะวัยนี้ก็ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ค่อยได้ อย่าไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพราะนอกจากจะสร้างปัญหาให้ตัวเอง และครอบครัวแล้ว ยังจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมอย่างที่เราเห็นๆกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคงไม่มีใครปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น แน่นอน

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

มาจัดบ้านหวาน… ต้อนรับวาเลนไทน์กันดีกว่า



เมื่อเทศกาลแห่งรัก 14 กุมภาพันธ์ เวียนมาถึง ของขวัญแห่งความรักมากมายก็ทยอยออกมาเรียกน้ำย่อย ตั้งแต่ช่อดอกไม้สวยงามไปจนถึงช็อกโกแลตรูปทรงแปลกตา และสำหรับการสังสรรค์ของคู่รัก หรือการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มีที่ไหนเป็นส่วนตัวเท่ากับฉลองที่บ้านเล่า… เอ้า! เมื่อเป็นเช่นนี้สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่จะพาแฟนไปบ้าน ลองนำเคล็ดลับดังต่อไปนี้ไปเปลี่ยนบ้านให้เป็นสวรรค์นะจ๊ะ

โดย คุณ วงศรณ สุทธิกุลพาณิช อินทีเรียร์ดีไซเนอร์อิสระ บอกเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อความโรแมนติกในวันวาเลนไทน์สำหรับทุกคู่รัก และใครก็ได้ที่รักกัน ให้จัดบ้านดังนี้จ้า. . .

1. ไลติ้ง

เรื่องของแสงเป็นตัวการเปลี่ยนบรรยากาศให้โรแมนติกได้ง่ายที่สุด ถ้าบ้านใครติดตั้งไฟแบบวอร์มไวท์ เพียงแค่ปรับลดแสงลง แค่นี้ก็ซึ้งแล้ว . . . จากนั้นเพิ่มโคมไฟตั้งโต๊ะแทนที่ เพื่อให้แสงภายในบ้านนุ่มนวลขึ้น หรือจะจุดเทียนในบางจุดก็ได้ แต่ขอแนะนำว่าอย่าจุดมากจนเกินไป เพราะแสงเทียนจะวูบวาบเมื่อโดนลม แสงจากโคมไฟจึงเหมาะที่สุด และเป็นแสงที่นิ่งไม่วูบไหว

แต่ในกรณีที่บ้านใครติดตั้งไฟเดย์ไลต์ หรือใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์โดยเฉพาะ ถ้าเป็นแสงสีขาว แสงที่ออกมาจะทำให้ห้องดูแข็งกระด้าง ไม่นุ่มนวล จะทำลายอารมณ์โรแมนติกหมด ขอแนะนำให้ปิดไปเลย เปลี่ยนไปใช้โคมไฟแทน เพื่อให้ห้องนุ่มนวลขึ้น

ในกรณีที่ใครกำลังสร้างบ้านใหม่ หรือจะเปลี่ยนแปลงระบบไฟใหม่ ในห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติก ขอแนะนำให้เลือกใช้ไฟแบบวอร์มไวท์ เพราะสามารถปรับระดับแสงได้ตามความต้องการ หรือติดตั้งไฟสีส้มเพื่อให้แสงนุ่ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นกว่า แถมยังช่วยขับผิวพรรณสาวหนุ่มให้ดูดีขึ้นอีกด้วย

2. ผิวสัมผัส

นอกจากแสงที่เปลี่ยนบรรยากาศให้โรแมนติกแล้ว ผิวสัมผัสที่ได้รับก็ส่งผลต่ออารมณ์เช่นกัน ในที่นี้หมายถึงงานผ้าในการตกแต่ง ตั้งแต่ผ้าบุโซฟา ผ้าม่าน หากสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อผ้าที่มีความอ่อนนุ่มได้ เช่น ลินิน ไหม หรือซาติน ก็จะช่วยให้สิ่งรอบๆ ตัวดีขึ้นไปหมด

สัมผัสที่นุ่มนวลย่อมมีผลต่ออารมณ์ที่นุ่มนวล ทั้งยังเปลี่ยนเป็นบรรยากาศที่สบายๆ ได้มากขึ้น นุ่มนวลอบอุ่นมากขึ้น

3. สีสัน แม้สัญลักษณ์ของวาเลนไทน์จะเป็นกุหลาบสีแดง แต่การตกแต่งห้องด้วยสีแดงทั้งหมดนั้นอาจรุนแรงไป ไม่ว่าจะเป็นแดงหรือชมพูก็ตาม หากสีเยอะจนเกินไปจะดูแป๋น ซึ่งผู้หญิงอาจชอบ แต่ขอแนะนำว่าไม่เหมาะกับผู้ชายเท่าไหร่

ผู้ชายเหมาะที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมในโทนสีที่อบอุ่น เช่น น้ำตาลออกกาแฟ หรือสีเขียวมะกอก ดังนั้นการแต่งห้องด้วยสีจึงต้องระวังให้ดี คือไม่ให้เป็นสีจัดรุนแรงทั้งหมด แต่ควรมีการเบรกด้วยสีอื่นบ้าง เช่น ถ้าห้องสีเข้มแล้วก็ควรใช้ของตกแต่งที่เป็นสีอ่อนบ้าง ในทางกลับกัน หากห้องสว่างสดใสก็แต่งเฟอร์นิเจอร์สีเข้มลงไป เช่น ห้องสีขาวหรือครีม ก็ควรใช้งานผ้าสีกาแฟ หรือแดงได้เล็กน้อย เป็นต้น

4. การจัดโต๊ะ

วาเลนไทน์ทั้งที มื้อนี้อิ่มกับคนรักต้องพิเศษกว่าธรรมดาหน่อย วงศรณแนะนำว่า ความตื่นเต้นบนโต๊ะอาหารสร้างง่ายๆ ด้วยชุดภาชนะนี่เอง เปลี่ยนให้สวยงามสดใสตามใจชอบ ภาชนะที่เหมาะควรเป็นชุดที่มีรายละเอียดเป็นลวดลายที่อ่อนหวาน ภาชนะเรียบๆ ไม่เหมาะในโอกาสนี้

สิ่งที่เติมเต็มบรรยากาศอีกอย่างก็คือ แผ่นรองจาน ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้มื้ออาหารนั้น ทำให้มีความรู้สึกที่พิเศษขึ้น และพิถีพิถันมากขึ้น

ที่สำคัญพลาดไม่ได้ก็คือ ควรมีการจัดโต๊ะสักเล็กน้อย วิธีการจัดก็ง่ายๆ คือจัดลงไปที่กลางโต๊ะ หรือที่เรียกว่าเซ็นเตอร์พีซ โดยการใช้เชิงเทียนแสนหรู เหมาะสมกับบ้านและฐานะ หรือจัดดอกไม้ลงไป ควรระวังไม่ให้ดอกไม้ในแจกันเว่อสุดขีด หรือใหญ่เกินไป เพราะจะบังหน้า ควรจะต้องเตี้ยกำลังดี รวมทั้งเรื่องของสีดอกไม้ด้วย อย่าลืมเลือกให้กลมกลืนกับสีของบ้านและภาชนะ

นอกจากดอกไม้บนโต๊ะอาหารแล้ว การจัดดอกไม้ในบ้านสำหรับวันสำคัญนี้ก็เป็นสิ่งที่ห้ามมองข้าม เพราะดอกไม้เติมอารมณ์โรแมนติกได้ดี ถ้าเป็นห้องโปร่งสีขาวหรือสีสว่าง ควรเลือกดอกไม้แบบดอกเล็กๆ ใบเล็กๆ มีสีหวานอย่างพาสเทล เพื่อเพิ่มความหวาน และให้ภาพรวมที่นุ่มนวล แต่ถ้าชอบสีแดงของดอกกุหลาบก็จัดแต่งได้ แต่ต้องไม่มาก หรือผูกขาดแค่สีเดียวเพราะจะทำให้น่าเบื่อ และดูแรงไป ควรจัดสีแดงไว้จุดหนึ่ง แล้วจุดอื่นๆ ก็ใช้สีอื่นที่เบาลงมา เพื่อให้บ้านธรรมดาๆ มีชีวิตชีวาและมีสีสัน

เคล็ดลับง่ายๆ จากนักออกแบบตกแต่งภายในคนนี้ คงช่วยสร้างสีสันของบ้านให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความรักได้อย่างไม่ยากเย็นเกินไปนัก ใช่ไหมล่ะ . .